บางคนคิดว่าทำไมต้องกลัว สมัยนี้มีแอปพลิเคชันมากมายที่ช่วยให้เราติดต่อสื่อสารกันง่ายขึ้น ทั้งเฟซบุ๊ค ไอจี ไลน์ และอีกสารพัดโปรแกรมที่ส่งข้อความ-เสียง-รูปภาพเคลื่อนไหว ไปหาอีกคนได้ทุกเมื่อ
มองในแง่หนึ่งมันก็ใช่แหละ แต่มันคงแทนที่กันไม่ได้ ถ้าเลือกได้ เจอตัวจริงก็ต้องดีกว่าอยู่แล้ว
ถ้าเป็นคู่ที่คบกันมานาน หรือมีกำหนดระยะเวลารอ การอยู่ไกลกันแค่ชั่วคราวคงไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรมากนัก แต่สำหรับคู่ที่เพิ่งคบหาดูใจและอยู่ไกลกันตั้งแต่เริ่มแรก แถมยังมีโอกาสมาเจอกันน้อยอีก การที่จะทำความรู้จักหรือเข้าใจกันอย่างลึกซึ้งมันจะเกิดขึ้นได้สักแค่ไหนเชียว
ผมคิดอยู่เสมอว่า การได้สัมผัสมองตาพูดคุยกันต่อหน้า มันสร้างความผูกพันระหว่างคนสองคนได้มากกว่าตัวอักษรและรูปภาพบนคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือเยอะ
ลองนึกถึงคนที่คุณกำลังคุยอยู่สิ ถ้าเอาแต่คุยผ่านมือถือโดยแทบไม่ได้เจอกันเลย คุณจะทนคุยแบบนั้นไปได้นานสักแค่ไหน
สมมติคุณอยู่รามคำแหงแล้วต้องไปหาแฟนแถวปิ่นเกล้า หรืออยู่ลาดกระบังแต่แฟนอยู่ดาวคะนอง คุณต้องเดินหรือนั่งมอเตอร์ไซค์ออกจากซอย ฝ่ารถติดเพื่อไปให้ถึงรถไฟฟ้า จากนั้นก็ต้องนั่งรถเมล์หรือแท็กซี่ต่ออีกทอดหนึ่ง
นอกจากจะต้องเสียเวลาเดินทางเป็นชั่วโมง เหนื่อยจนแทบหมดแรง ยังต้องจ่ายค่าเงินอีกไม่ต่ำกว่า 150-200 บาท แต่ถ้าเกิดบอกว่านั่งแท็กซี่ไปเลยทีเดียว ก็ยิ่งต้องเผื่อเวลาและบวกค่าเดินทางเพิ่ม
ครั้งแรกๆก็คงพยายามได้พักหนึ่ง หลังจากนั้นพอเบื่อหรือเหนื่อยก็คงส่งข้อความน้อยลง แล้วก็ลดเหลือแค่ส่งสติกเกอร์หากันไปมา จนในที่สุดก็หายจากกันไปเอง แต่ถ้าเรามีคนรักที่อยู่ใกล้กัน เราสามารถเอาส่วนต่างนี้ไปกินอาหารดีๆ ได้หนึ่งถึงสองมื้อเลยนะ แถมยังเจอกันได้บ่อยอีกตะหาก ไม่ดีกว่าหรอกเหรอ?
อีกเรื่องหนึ่งที่ผมคิดว่าสำคัญมากคือในความสัมพันธ์ของทุกคู่มันจะต้องมีที่สถานที่ซึ่งเป็น ‘ของเรา’ เช่น ที่ทำงาน(สำหรับคู่ที่โชคดีทำงานที่เดียวกัน) ฟิตเนส สวนสาธารณะ ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ มันคือสถานที่ซึ่งเราเอาไว้สร้างความผูกพันกันในโลกแห่งความจริง แต่กับความสัมพันธ์ทางไกลล่ะ เราจะไปเจอกันที่ไหนดี ?
สมมติคนหนึ่งอยู่บางกะปิแล้วอีกคนที่คุยด้วยอยู่ฝั่งธนฯ จะมีใครยอมถ่อไปไอคอนสยามหรือมาเดอะมอลล์บางกะปิบ่อยๆ เพื่อเจออีกฝ่าย ?
มันต้องมีคนที่คิดว่าก็นัดเจอกันคนละครึ่งทาง หาสถานที่ที่อยู่กึ่งกลางของทั้งสองคน ไปไหนมาไหนสะดวกอย่างเช่นสยาม หรือห้างกลางเมืองไหม? จริงๆจะเอาแบบนั้นก็ได้ แต่ถ้ามีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ชอบเดินทางไกล ไม่ชอบรถติด ไม่ชอบคนเยอะ โดยเฉพาะในกรณีที่เพิ่งทำความรู้จักกัน อาจจะมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดที่ยังไม่สะดวกใจจะนัดหมายไปไหนไกลจากคอมฟอร์ทโซนของตัวเองก็ได้
สำหรับตัวผมบอกเลยว่าไม่ได้
ถ้าหาสถานที่ที่จะเป็น ‘ของเรา’ ไม่ได้ ความสัมพันธ์มันก็ไม่คืบหน้าไปไหนอยู่ดี
บางคนอาจจะแย้งว่าคนสมัยก่อนที่อยู่ไกลกัน ทำไมเขาถึงยังรอและรักกันได้ ? แสดงว่าไม่รักกันจริงน่ะสิ
ถ้าถามเราก็ให้เขารอไปละกัน แต่เราไม่อยากรออ่ะ จำเป็นแค่ไหนที่ต้องมานั่งรอ ถ้าเลือกได้แล้วจะรอไปทำไม ? บทพิสูจน์ในชีวิตมันมีอยู่เยอะแยะ เมื่อยุคสมัยเปลี่ยน โจทย์มันก็เปลี่ยนตามไปด้วย เพราะงั้นถ้าเลือกได้ก็ขอเลือกอันที่มันเหมาะกับการใช้ชีวิตของเรามากกว่าไหม?
เชื่อเถอะว่าถ้าเลือกได้ ไม่มีใครชอบที่จะอยู่ไกลจากคนที่ตัวเองรัก แต่ถ้าเลือกไม่ได้ ก็ต้องถามตัวเองแล้วล่ะว่าจะยอมเสี่ยงลุ้นดูซักครั้ง หรือเลือกที่จะไม่เริ่มตั้งแต่ต้นซะดีกว่า?
สำหรับตัวผมเอง ขอเลือกข้อหลังนะครับ