“ก่อนจะมาที่นี่ มีแต่คนด่า หาว่ายังจะมีหน้าไปประกวด(นางงาม)อยู่อีก คนตายตั้งเยอะแยะ ยังจะยิ้มได้อยู่อีกเหรอ รู้บ้างมั้ยเนี่ย!!”
ฮาน เลย์ มิสแกรนด์เมียนมาปี 2020 บอกเราด้วยเสียงจ๋อย หลังออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลพม่าหยุดคุกคามประชาชน
ในปี 2021 นี้ หลายเวทีนางงามกำลังกลายเป็นพื้นที่เรียกร้องหลักมนุษยธรรม เช่น Miss Singapore บนเวที Miss Universe 2021 ที่พึ่งถือป้าย “Stop Asian Hate” มาหมาดๆ
ในยุควิกฤตที่เรื่องชวนปวดหัวเยอะแยะไปหมดแบบนี้ หน้าที่ของนางงามคืออะไร ?
![](https://www.ricemedia.co/thailand/wp-content/uploads/2021/05/00_HunLay-cover-1-683x1024.jpg)
พม่าไม่ใช่ประเทศที่ปกติคนไทยจะเชียร์ โดยเฉพาะในเวทีประกวดนางงาม แต่ปีนี้บรรยากาศของกองประกวดและฟีดแบ็คในโซเชียลมีเดียแปลกไปจากที่เคย โดยเฉพาะหลังจากที่ฮาน เลย์ มิสแกรนด์พม่า ได้ขึ้นไปพูดบนเวทีถึงสถานการณ์ในบ้านเกิดของตัวเองซึ่งกำลังเข้าขั้นวิกฤตจากการปะทะระหว่างรัฐบาลและประชาชน ซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องปกติที่จะได้เห็นกันได้บ่อยๆในวงการนี้
เสียงปรบมือที่ดังขึ้นพร้อมกับเสียงโห่ร้องของผู้ชม เป็นเครื่องยืนยันว่าชีวิตของเธอกำลังจะเปลี่ยน ไม่ว่าไม่ว่าจะชนะหรือไม่ แต่มันจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ผมเคยสงสัยว่าการมีชื่อเสียงมันช่วยอะไรคนได้มั้ย? ความสวยมันมีประโยชน์แค่ไหน? แล้วการมีสองอย่างนี้มันดียังไง?
ถามคนทั่วไปก็คงได้คำตอบอย่างนึง แต่ผมอยากถามเธอ เพราะช่วงเวลา 3 นาทีบนเวทีนั้นได้ยืนยันแล้วว่าเธอมีครบทุกอย่างที่ว่ามา
![](https://www.ricemedia.co/thailand/wp-content/uploads/2021/05/02_IMG_1767-683x1024.jpg)
“รู้มั้ยว่าในพม่า นางงามนี่ไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่หรอก คนทั่วไปก็คิดว่าเป็นเหมือนนางแบบ หรือพรีเซนเตอร์อะไรอย่างนั้น”
ฮาน เลย์ หันมาถามยิ้มๆ ผมได้แต่ส่ายหน้า อ้าว คิดว่าจะเหมือนกับบ้านเราซะอีกที่ใครๆก็ชอบคนสวย
“ก่อนจะมาที่นี่ มีแต่คนด่า หาว่ายังจะมีหน้าไปประกวดอยู่อีก คนตายตั้งเยอะแยะ ยังจะยิ้มได้อยู่อีกเหรอ รู้บ้างมั้ยเนี่ย!! โดยเฉพาะตามโซเชียลมีเดีย ตอนที่ลงรูปว่าจะมากรุงเทพ ก็มีคนไปคอมเม้นต์ลบๆในนั้น แต่ฉันก็ขี้เกียจจะไปอธิบาย ซึ่งตอนนี้พวกเค้ารู้แล้ว และเปลี่ยนท่าทีที่มีกับฉันและการประกวด หันมาให้ความสนใจมากขึ้น พอนางงามพม่าอีกคนเดินทางไปที่สหรัฐฯเพื่อชิงตำแหน่งมิสยูนิเวิร์ส คนก็เข้าใจหน้าที่และก็ช่วยสนับสนุนเธอมากขึ้น”
ข้อดีข้อแรกของการเป็นคนสวยอย่างแรกก็คือได้โอกาสเพิ่มขึ้น แต่ก็ต้องแลกมากับราคาที่ต้องจ่ายแบบนี้ไง เป็นคุณจะยอมไหมล่ะ?
![](https://www.ricemedia.co/thailand/wp-content/uploads/2021/05/03_IMG_1753-683x1024.jpg)
อย่างหนึ่งที่ผมชื่นชมฮาน เลย์ ก็คือเธอรู้ดีว่าเธอกำลังทำอะไร แล้วก็ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีอย่างคุ้มค่า เปลี่ยนทุกนาทีเป็นโอกาส ใครจะไปคิดว่าเวทีนางงามจะกลายเป็นเวทีไฮด์ปาร์คไปได้! จากความสวยกลายเป็นความแซ่บที่พริกสิบเม็ดก็เอาไม่อยู่
ใครจะไปรู้ว่าผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเธอทำได้ !
“คงไม่มีใครคิดว่าฉันจะออกมาพูดเรื่องการเมือง ที่จริงฉันได้รับอนุญาตให้พูดเรื่องนี้มาล่วงหน้าแค่คืนนึง ตอนได้ยินคุณณวัฒน์บอก ฉันก็เซอร์ไพรส์ว่า.. เฮ้ย พูดได้เหรอ ? แล้วฉันดันไปเห็นข่าวที่ทำให้ร้องไห้ก่อนที่จะขึ้นเวทีอีก แต่พอไปอยู่บนนั้นแล้วก็บอกตัวเองว่าต้องเข้มแข็ง การพูดครั้งนี้จะส่งสารไปยังคนอื่นได้อีกมาก คนอีกหลายประเทศจะได้รู้ แต่ถ้าปล่อยโฮออกมาตอนนี้ทุกอย่างพังแน่ พูดไม่รู้เรื่อง พยายามเชียร์อัพตัวเองว่าทำให้ได้ ต้องทำให้ได้ กลืนน้ำตาไว้ในอก แล้วสู้ต่อ ทั้งๆที่เพลงกับบรรยากาศมันบิ้วท์มาก พอกลับไปหลังเวทีเท่านั้นแหละ ฉันปล่อยโฮเลย
“รู้มั้ยว่านี่หยุดตัวเองไม่ได้ไปอีกเกือบสองวัน ร้องไห้จนกินไม่ได้ นอนไม่หลับ”
![](https://www.ricemedia.co/thailand/wp-content/uploads/2021/05/04_IMG_1819-683x1024.jpg)
ผมสงสัยว่าผู้หญิงตัวเล็กๆที่ยังอายุน้อยคนนี้เอาความกล้ามาจากไหน ทั้งเรื่องที่เคยเขียนจดหมายไปหากองทัพเพื่อแสดงจุดยืนว่าไม่เห็นด้วย การโพสความเห็นลงโซเชียลมีเดีย และลงไปเดินบนถนนอย่างแน่วแน่
มันอาจเป็นเพราะวัยที่ฮอร์โมนกำลังสูบฉีด ความฝันกำลังเบ่งบาน และยูโทเปียที่กวักมืออยู่ข้างหน้า แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่ทุกคนจะทำได้ โดยเฉพาะในยุคนี้ ช่วงเวลาที่ผู้คนกำลังสั่นไหวไปกับความจริงและความเท็จที่สาดเข้ามาให้รับรู้จนยากจะแยกออกจากกัน
“จริงๆก็กังวลอยู่แล้ว ฉันก็เป็นแค่เด็กสาวอายุ 22 คนนึงที่ต้องออกมาบอกคนทั้งโลกว่าอยู่ฝ่ายตรงกันข้ามกับผู้นำประเทศ ครอบครัวฉันก็กลัว แต่ถ้าฉันกลัว อนาคตก็ไม่มี ฉันบอกคนอื่นว่าตอนนี้ไม่ใช่แค่ฉันไม่มีอนาคต แต่เด็กรุ่นต่อๆไปก็ไม่มีอนาคตด้วย ถ้าฉันหยุดตอนนี้ ฝ่ายนั้นก็จะชนะ ฉันก็เลยต้องสู้ต่อ เค้าสิต้องกลัว เพราะฉันอยู่นอกประเทศ แล้วก็ใช้ตัวเองเป็นกระบอกเสียงเพื่อสื่อสารกับต่างชาติได้ง่ายขึ้น
“ถ้าฉันอยู่ในพม่า สถาการณ์ของตัวเองก็อาจจะเปลี่ยน ฉันก็คงไม่อาจจะพูดในสิ่งที่ฉันเคยพูดออกไป แต่พอออกมานอกประเทศก็เลยทำอะไรได้มากขึ้น”
![](https://www.ricemedia.co/thailand/wp-content/uploads/2021/05/05_IMG_1756-683x1024.jpg)
พอพูดถึงเรื่องครอบครัว เสียงของฮาน เลย์ เปลี่ยนไป ดูตั้งใจและให้ความสำคัญมากขึ้น เธอเล่าให้ฟังว่าพ่อเสียไปนานแล้ว แม่เลี้ยงเธอต่อในเมืองใหญ่ แต่ตอนนี้ได้ย้ายกลับไปบ้านเกิดหลังจากที่ฉันพูดสิ่งนั้นออกไปบนเวที ก่อนที่เราจะหัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน ผมว่าเรื่องแบบนี้ไม่ต้องพูดเยอะก็เข้าใจตรงกัน
“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวฉันก็ต้อง เฮ้อ.. เอ่อ… (ถอนหายใจ) ต้อง call out กับประชาคมโลกให้ปล่อยตัวพวกเขาออกมา … ก็คงเป็นห่วงมาก แต่ฉันก็คงไม่หยุดทำในสิ่งที่ทำอยู่แน่ๆ
“ฉันว่าที่คนมีชื่อเสียงบางคนไม่กล้าออกมาพูด เพราะกลัวรัฐบาลทหารจะไม่พอใจ อย่างตัวฉันเอง องค์กรที่สังกัดอยู่ก็เตือนมาว่าพูดได้นะ แต่อย่าพูดเยอะ มันเสี่ยง แต่ฉันรู้สึกว่าถ้าพูดก็ต้องพูดให้เต็มที่ ต้องพูดด้วยความจริงใจ แล้วก็ส่งสารไปให้ถึงคนที่ฟังให้ได้มากที่สุด”
![](https://www.ricemedia.co/thailand/wp-content/uploads/2021/05/06_IMG_1778-683x1024.jpg)
ผมว่าเราทุกคนมีไอดอล พูดง่ายๆก็คือคนที่เราชื่นชมและเห็นเป็นแบบอย่างในชีวิต ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็เถอะ ฮาน เลย์บอกว่าเธอชื่นชมอองซานซูจีเพราะเรื่องพลังของผู้หญิง แค่คุยกันพักเดียว ผมก็รับรู้ได้ว่าคนที่มีอิทธิพลมากกว่านั้นก็คือ ‘แม่’
“แม่ฉันเป็นคนฉลาด แล้วก็พิเศษมาก ถึงแม้ว่าคนพม่าจะชอบขีดเส้นให้ลูกเดิน แต่แม่ฉันไม่ทำ เธอมักจะบอกฉันเสมอว่าถ้าเลือกทางไหนจะเป็นยังไง แล้วก็บอกว่าทางไหนดี แต่สุดท้ายก็แล้วแต่ฉันว่าจะเลือกอะไร ไม่เคยบังคับว่าแบบไหนดีกว่า”
ไม่แปลกใจเลยที่เธอจะบอกว่าทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเลือกอะไรซักอย่างโดยที่ไม่มีใครบังคับ
เพราะเธอโตมาแบบนี้นี่เอง
![](https://www.ricemedia.co/thailand/wp-content/uploads/2021/05/07_IMG_1749-683x1024.jpg)
“ตั้งแต่เด็กๆ เก้าขวบสิบขวบ ฉันเคยฝันอยากเป็นประธานาธิบดี เพราะไม่ชอบระบบการศึกษาของพม่า ตอนนั้นถามแม่ว่าทำไมระบบการศึกษาบ้านเรามันไม่ดีเลยอ่ะ เราจะเปลี่ยนได้ยังไง แม่บอกว่าถ้าเป็นประธานาธิบดีก็เปลี่ยนได้ ฉันก็เลยอยากเป็นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แต่ตอนนี้ ไม่อยากเป็นเลย เพราะการเมืองมันซับซ้อนและยากมาก ตอนนี้แค่อยากมีชีวิตเรียบง่ายก็พอแล้ว”
เธอพูดไปหัวเราะไป ผมก็หัวเราะไปกับเธอด้วย นี่คงเห็นตัวอย่างมาจนบรรลุสัจธรรมสินะ แต่เอาจริงๆ ผมว่าแค่ตอนนี้ชีวิตเธอมาไกลกว่าคำว่าเรียบง่ายหลายเท่าแล้วแหละ ดูจากที่กว่าเราจะนัดเจอกันลงตัวนี่ก็ได้
![](https://www.ricemedia.co/thailand/wp-content/uploads/2021/05/08_IMG_1773-683x1024.jpg)
ฮาน เลย์ บอกว่าตอนนี้รัฐบาลหยุดยิงคนชั่วคราว โดยไม่รู้ว่าเหตุผลคืออะไร บางคนบอกว่ามีการตกลงกันในการประชุมอาเซียน แต่เธอไม่คิดแบบนั้น เพราะการเรียนจิตวิทยาทำให้รู้ว่าคนคิดอะไร รัฐบาลรู้ว่าถ้ายิ่งบีบบังคับ สถาการณ์จะยิ่งแย่ลง ตอนนี้ก็เลยทำเป็นเหมือนยอมๆ ไปก่อน ถ้ากลัวก็ยิ่งถูกกด ถ้าคนไม่กลัวก็ทำอะไรไม่ได้
“ฉันเลือกเรียนด้านนี้เพราะแม่ ครอบครัวฉันคิดว่าจิตวิทยานั้นสำคัญมาก แม่บอกว่าไปเรียนแล้วเอามาสอนแม่หน่อย ในยุคนี้คนชอบมองกันแต่ภายนอก ในพม่านี่ถ้าใครเรียนเรื่องจิตวิทยาจะดูไม่ค่อยดี ปลูกฝังกันมาว่าจบแล้วไม่มีงานทำ หางานยากมาก รัฐบาลไม่ค่อยอยากให้คนเรียนสาขานี้ เดี๋ยวจะควบคุมยาก จะเปิดคลินิกก็ลำบาก เพราะคนยังมีความเชื่อว่าถ้าไปหาก็เป็นคนบ้า แต่พอไปเรียนแล้วฉันรู้สึกว่ามันสำคัญมากสำหรับทุกคน มันเอามาใช้ในชีวิตจริงได้มาก ดัดแปลงใช้ได้หลากหลาย”
![](https://www.ricemedia.co/thailand/wp-content/uploads/2021/05/09_IMG_1790-683x1024.jpg)
เราบอกเธอว่าฟังเธอเล่าเรื่องพม่าไปละ แล้วรู้เรื่องที่คนไทยอยากย้ายประเทศมั้ย? เราเปิดเพจแล้วอธิบายให้เธอฟังว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับเด็กๆบ้านเรา เธอทำหน้าตกใจ !!
“เฮ้ย!! ทำไมเค้าคิดงั้นอ่ะ? ฉันว่ามันไม่น่าจะดีมั้ง ถ้างั้นเค้าน่าจะอยากเปลี่ยนชีวิตเค้าละ มันคนละอย่างกับเราแล้ว เราต้องการจะเปลี่ยนประเทศโดยรวม ให้คนอื่นได้มีชีวิตที่ดีไปพร้อมๆกันกับเรา ไม่ใช่แค่เราคนเดียว
“ส่วนตัวฉันคิดว่าถ้าคุณต้องการจะเปลี่ยนแปลงอะไร คุณต้องไปเปลี่ยนสิ่งที่ต้องเปลี่ยนสิ อย่าเปลี่ยนตัวเอง อย่ายอมแพ้! จะเปลี่ยนทั้งประเทศมันไม่ใช่เรื่องง่ายอยู่แล้ว เราไม่เคยคิดว่ามันง่าย แต่เราเชื่อว่ามันเปลี่ยนได้ แล้วก็เชื่อในพลังของคน ถ้าคนเดียวก็ไม่มีทาง แต่ถ้าหลายคนร่วมมือกัน มันก็ต้องได้สิ!”
![](https://www.ricemedia.co/thailand/wp-content/uploads/2021/05/10_IMG_1836-683x1024.jpg)
ฟังแล้วคิดตามดีๆ มันก็คงจะจริง แต่ถ้ามองในมุมกลับกัน จะบอกเค้าได้มั้ยนะว่าที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่ามันสิ้นหวังเหลือทน หนทางช่างมืดมนและหดหู่แบบในหนังฟิลม์นัวร์
มีคนเคยบอกว่าวัฒนธรรมเอเชียมันค่อนข้างเห็นแก่ตัว เอาจริงๆผมคิดว่าทุกคนก็เห็นแก่ตัวหมดแหละ เราไม่ค่อยแคร์ชีวิตคนอื่นกันซักเท่าไหร่ อย่างมากเห็นใจกันแวบเดียวก็ต้องรีบปัดตกมาโฟกัสกับชีวิตตัวเองต่อ แหม.. แค่เรื่องของตัวเองยังจะเอาไปรอด แล้วจะไปยุ่งเรื่องของคนอื่นทำไม
ซึ่งคิดแบบนั้นมันก็ถูกล่ะนะ แต่ถ้าไม่เริ่มต้นที่ตัวเราก่อน แล้วจะหวังให้ใครเริ่มล่ะ?
![](https://www.ricemedia.co/thailand/wp-content/uploads/2021/05/11_IMG_1811-683x1024.jpg)
ก่อนกดปิดอัดเสียง ผมถามคำถามสุดท้ายว่าอยากให้คนจำเธอว่าอะไร? และการประกวดนางงามนี่มันสำคัญยังไงบ้าง?
แน่ล่ะ คำตอบของเธอคือไม่ชอบให้คนมองแค่ความสวย แต่อยากให้คนมองที่ความสามารถ อยากให้คนมองและจำภาพว่าทำอะไรได้มากกว่า การประกวดนางงามทำให้ทุกคนเห็นว่าผู้หญิงมีพลังที่จะเปลี่ยนแปลงโลกได้ อย่างที่เธอได้เป็นกระบอกเสียงให้โลกหันมาสนใจปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศเล็กๆได้ในพริบตา หวังว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะเป็นกำลังใจให้ผู้หญิงทุกคนที่มีความฝันแบบเดียวกัน
ฟังแล้วก็รู้สึกดีว่าเธอได้ทำอย่างที่พูดแล้วจริงๆ อย่าลืมว่าตำแหน่งนั้นอยู่ไม่นาน แต่ตำนานจะอยู่ตลอดไป