ถ้าเราสามารถโป๊ 18+ ลงเป็นคอนเทนต์ขายกันได้ถูกกฎหมายทั่วไป ประเทศเราจะรวยกันขนาดไหน?
มนุษย์เป็นหนี่งในสิ่งมีชีวิตไม่กี่ประเภทที่มี “เซ็กซ์” เพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีเพื่อสืบพันธุ์แค่อย่างเดียว และดูเหมือนประเทศไทยจะบันเทิงใจวนเวียนอยู่กับเรื่องชู้สาว เรื่องเซ็กซ์ เรื่องใต้เตียงดารากันมากมายรายวัน
จากเรื่องเล่าชวนสยิวในนิตยสารวาบหวามสู่ยุคโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์อย่างวิดีโอ แผ่นซีดี มาจนปัจจุบันการดูสื่อลามกเพียงก็แค่ปลายนิ้วสัมผัส แต่สื่อลามกแบบไทย ๆ ดูจะมีปัญหาให้ถกเถียงกันทุกครั้งที่มีข่าว จนรัฐบาลและตำรวจจ้องขยับตัว เชือดไก่ให้ลิงดูครั้งแล้วครั้งเล่า
ทั้ง ๆ ที่คนไทยเป็นชนชาติที่มีจินตนาการสูงมาก แต่ทำไมเราถึงเอาจินตนาการตรงนั้นมาใช้ไม่ได้ล่ะ? ความสามารถของเราขนาดไหน น่าจะไปไกลแค่ไหน วันนี้ Rice ลองไปคุยกับพี่ชายต๊องหญิงเพี้ยนมาให้ฟัง
ตั้งแต่จำความได้ผมก็ไม่ได้คุ้นเคยกับหนังโป๊สัญชาติไทยนะ นึกออกก็แต่เรื่อง “น้องเมียพันธุ์เอ็กซ์” ที่ผ่านตาในฐานะของการเป็นมีมจากวลีในตำนานอย่าง “ผมไม่เล็กนะครับ” หรือไม่ก็หนังอาร์ที่ไม่เห็นการสอดใส่ในฉากร่วมเพศหรือที่เขาเรียกกันว่าหนังบดไข่
ทีนี้พอมาคิดพอมาคิดว่าเราอยู่ในปี 2022 ที่หนังโป๊สามารถหาง่าย เข้าถึงง่าย แต่กลับไม่ได้เห็นหนังโป๊สัญชาติไทยเป็นที่พูดถึงเลย อาจจะด้วยคุณภาพโปรดักชั่น มุมมองการถ่ายที่ก็ต้องยอมรับว่าสู้เจ้าตลาดอย่างฝั่งฝรั่งหรือญี่ปุ่นไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่การที่เป็นเนื้อเรื่องในประเทศตัวเอง มันก็น่าที่จะตีตลาดโดยใช้ความคุ้นชินได้ไม่ยากสิ ถึงอย่างนั้นเรากลับเห็นหนังโป๊ไทยออกมาในรูปแบบที่เป็นงานมือสมัครเล่น มากกว่างานที่ถ่ายแบบจริงจังที่นับว่ามีน้อยมาก
ใช่ ผมพูดว่าน้อยมาก ไม่ใช่ไม่มี พอได้เสิร์ชหาดูจากเว็บไซต์ที่ตอนนี้โดนจำกัดการเข้าถึงอย่าง Pornhub จะเห็นได้ชัดว่ามีครีเอเตอร์คนไทยจำนวนไม่น้อยเลยที่อยู่บนแพล็ตฟอร์มนี้ จนนึกขึ้นได้ว่าก็มีครีเอเตอร์เจ้าหนึ่งที่มักเป็นที่พูดถึงอยู่บ่อย ๆ นั่นก็คือครีเอเตอร์ที่มีชื่อว่า “ชายต๊องหญิงเพี้ยน” ซึ่งมี “พี่ชายต๊อง” ที่เป็นทั้งผู้ก่อตั้งโปรดักชั่นร่วมกับแฟน เป็น CEO ผู้กำกับ รวมไปถึงเป็นนักแสดงเองด้วยในบางครั้ง
สำหรับคนที่ไม่รู้จัก ชายต๊องหญิงเพี้ยนโปรดักชั่นที่ผลิตสื่อบันเทิงทางเพศลงแพล็ตฟอร์มอย่าง Pornhub หรือล่าสุดก็ Onlyfans ที่เมื่อไม่นานมานี้เพิ่งประกาศยกระดับคอนเทนต์ของตัวเองด้วยการใช้กล้องสำหรับถ่ายภาพยนตร์อย่าง RED มาใช้ในการถ่าย
“งานของผมจะใส่ทุกอย่างที่เป็น body art อ่ะครับ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ว่ามันต้องโป๊แบบจ๋า ๆ อย่างเดียว บางทีก็ทำเป็นหนังอาร์หรือหนังเซ็กซี่ธรรมดาบ้าง ผมอยากที่จะผสมผสานให้มันมีหลากหลายแบบตั้งแต่แนวทางไปยังเรื่องของมู้ดโทนหรือมุมกล้อง” พี่ชายต๊องอธิบายแนวงานของตัวเองให้ฟัง
เพราะสื่อบันเทิงทางเพศในไทยยังเป็นสิ่งที่ไม่ถูกกฏหมาย งานโปรดักชั่นทั้งหมดเลยเป็นความลับ การชวนคุยครั้งนี้เลยเป็นไปในรูปแบบออนไลน์แทน
“ในเรื่องของการทำงาน ผมพยายามที่จะครีเอตอะไรที่มันใหม่ ๆ ตลอดว่าเราควรจะเปลี่ยนอะไรบ้าง เพิ่มตรงนู้น ปรับตรงนี้ ด้วยความที่เรายังไม่ใช่มืออาชีพมันเลยเปิดโอกาสให้เราได้ลองทำลองคิดอะไรหลาย ๆ อย่าง ลองสร้างผลงานใหม่ ๆ ผมว่ามันเป็นสิ่งที่ท้าทายดี
ส่วนตอนออกกองเราก็ทำเหมือนกองถ่ายปกติเลยครับ ก็มีการ pre production ว่าต้องเตรียมอะไร ถ่ายแบบไหนธีมอะไร พอไปถึงสถานที่ก็เซ็ตฉากถ่ายไปตามปกติครับ แล้วก็มาดูมู้ดโทนกันขั้นตอน post production ว่าอยากได้ฟีลไหน เหมือนกองถ่ายหนังทั่วไป ไม่ได้มีอะไรพิเศษจากโปรดักชั่นอื่น ๆ เลย”
ถ้าเคยเห็นผ่านตากัน งานของพี่ชายต๊องในช่วงแรกจะเป็นแนวถ่ายเองหรือที่เรียกว่า POV ไม่ก็ตั้งกล้องถ่าย ไม่เห็นหน้านักแสดง จนมักถูกคนแซะอยู่บ่อย ๆ ว่าเป็นคอนเทนต์ผีหัวขาดบ้าง ดูแล้วไม่เกิดอารมณ์บ้าง พี่ชายต๊องเล่าให้ฟังว่าจริง ๆ แล้วการตัดสินใจยกระดับคุณภาพโปรดักชั่นของตัวเองความอยากของตัวเองทั้งนั้นเลย ไม่ได้คิดถึงขนาดจะยกระดับวงการหรอก
“คือผมไม่ได้ชอบหนังโป๊ที่มีแค่ฉากเซ็กส์อย่างเดียว ผมชอบสตอรี่ มู้ดโทน รวมถึงเทคนิคในเชิงภาพยนตร์อะ
มันมีหนังโป๊แนวนี้อยู่และผมก็ชอบมันเป็นพิเศษ อย่างหนังจากค่าย Vixen หรือ BLACKED ที่ผมนำมาใช้อ้างอิงมันใกล้เคียงกับความเป็นภาพยนตร์หรือซีรี่ย์มากนะ คือเขาค่อนข้างลงทุนกับโปรดักชั่น ผมเลยอยากเอามาสร้างในแบบไทย ๆ หรือในแบบที่ตัวผมเองอยากให้เป็น
ผมอยากเปลี่ยนภาพจำที่คนทั่วไปมองว่าหนังโป๊มีแต่ฉากเซ็กซ์อย่างเดียว”
“ส่วนที่ผมใช้กล้อง RED ในการถ่ายนี่ส่วนหนึ่งมันเป็นความชอบของผมเองครับ อีกส่วนหนึ่งคือผมมองว่าอนาคตมันกว้างและเราสามารถทำอะไรกับมันได้เยอะมาก หนังโป๊ตอนนี้ความคมชัดตอนนี้ไปถึง 4K 8K แล้ว
การทำอะไรแล้วเรามองถึงการตอบโจทย์กับอนาคตเนี่ยมันเป็นสิ่งสำคัญมาก เราไม่ได้มองแค่ว่าทำให้เราอยู่รอดในปัจจุบัน เราต้องมองถึงอนาคตว่าเรายกระดับตัวเองให้สามารถทำงานที่ท้าทายหรือยากขึ้นได้มั้ย มันเป็นการ challenge ศักยภาพตัวเองอะฮะ ถ้าทำไม่ได้ก็ถือว่าเรายังไม่เก่ง เราก็ต้องทำไปเรื่อย ๆ คือประเทศไทยไม่ได้ขาดหนังโป๊ดี ๆ หรอกแต่ขาดกฏหมายและระบบที่ดี หนังโป๊ที่ดีมีเยอะแยะ มีศักยภาพแต่ไม่มีที่ให้แสดงออกเพราะไม่มีกฏหมายมารองรับและผลักดัน ประเทศไทยค่อนข้างที่จะไม่ตอบโจทย์ให้คนแสดงศักยภาพในสิ่งที่ตัวเองทำได้ออกมาไม่ว่าจะด้านไหนก็ตาม
“พี่มองว่าความท้าทายในการแก้กฏหมายสื่อ 18+ คืออะไรครับ?”
“ความท้าทายตอนนี้คือ‘คน’ครับ กฏหมายมันสร้างโดยคน จะเปลี่ยนจะแก้ก็โดยคน กฏหมายมันไม่ได้อยู่ดี ๆ ก็เกิดขึ้นมาเองนะ มันมาจากการที่คนไปร่างไปทำมันขึ้นมา ดังนั้นสิ่งที่เป็นอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือคนครับ
เรื่องกฏหมายเนี่ย ถ้าคนไม่รู้สึกว่าตัวเองมีสิทธิ์หรืออยากจะใช้สิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง ปากบ่นแต่ไม่ลงมือทำมันก็เท่านั้นครับ แล้วสุดท้ายเราก็อยู่กันแบบนี้แหละ อยู่ในสิ่งที่เราบ่น อยู่ในสิ่งที่เราคิดว่ามันแย่ ผมพยายามดันเรื่องกฏหมายให้คนรู้ว่ามันมีกระบวนการนะ มันทำได้นะ แต่คนจะเห็นหรือทำมั้ยมันก็เป็นเรื่องของเขาผมไปบังคับไม่ได้ แต่ถ้าไม่ได้ทำแล้วมาบ่นว่าประเทศไม่มีการเปลี่ยนแปลงนี่ผมว่ามันไร้สาระ”
อธิบายคร่าว ๆ คือตอนนี้กำลังมีการระดมรายชื่อเพื่อแก้กฏหมายอาญามาตรา 287 ให้ครบหนึ่งหมื่นคนอยู่ เพื่อจัดระเบียบสิ่งที่เรียกว่า“สื่อบันเทิงทางเพศ”และคนทำอาชีพเกี่ยวกับสื่อเหล่านี้ใหม่ให้มีการคัดกรองที่เป็นระบบ รวมไปถึงให้พวกเขามีสวัสดิการชีวิตให้เหมือนกับคนประกอบอาชีพสุจริต รวมไปถึงการกำหนดขอบเขตการเข้าถึงสื่อเหล่านี้
ถึงคุณภาพของโปรดักชั่นจะพัฒนาขึ้นเยอะแล้ว แต่เท่าที่เห็นก็ยังมีหนังบางเรื่องที่นักแสดงยังปิดหน้าปิดตาอยู่ซึ่งอาจจะสะท้อนให้เห็นถึงความไม่ปลอดภัยในการทำงานสายนี้ในประเทศไทยก็ได้ ซึ่งหนึ่งในคนที่ไม่เปิดเผยหน้าตา ยังคงความเป็นบุคคลนิรนามอยู่ก็คือตัวพี่ชายต๊องเองนี่แหละ
“คนรอบตัวไม่รู้ครับว่าผมทำงานนี้ คนอาจจะพูดว่าผมมันไม่กล้าที่จะเปิดหน้า ผมอายหรืออะไรก็ตาม แต่จริง ๆ ผมก็แค่หวงความเป็นส่วนตัวของตัวเอง
ผมไม่ได้อยากที่จะโพนทะนาให้ใครรู้ว่านี่คือชายต๊อง การที่ไม่มีใครรู้จักสำหรับผมมันเป็นเซฟโซน
เราเลยสามารถทำในสิ่งที่เราอยากทำได้เต็มที่โดยที่ไม่มีใครมาละเมิดสิทธิ์เราแค่นั้นเอง ส่วนเรื่องการคุกคามคนทำงานสายนี้มันเป็นเรื่องปกติเพราะมันไม่มีกฏหมายมาคุ้มกันคนที่เป็น sex worker หรือ sex creator”
“ประเทศไทยไม่เป็นเซฟโซนของคนทำงานสาย18+เลยแม้แต่นิดเดียว มันไม่ใช่แค่ความเป็นประเทศแต่มันรวมไปถึงระบบ มันรวมไปถึงคน ทัศนคติ การศึกษา เราพูดถึงเรื่องโดยรวมทั้งหมดอะ มันไม่มีอะไรซัปพอร์ตเลย คือที่ผมทำอยู่นี่คือทำเพราะความชอบ ถ้าผมไม่ชอบผมก็คงไม่อยากทำงานด้านนี้เลยนะ
ส่วนเรื่องว่ามันเป็นอาชีพต้องห้าม ทำแล้วจะกลับไปทำอาชีพปกติได้มั้ยนี่ ในมุมมองตอนนี้มันก็คล้าย ๆ ว่าเป็นแบบนั้นนะ คือคุณทำงานสายนี้แล้วโดนตราหน้าว่าผิดกฎหมายร้อยเปอร์เซ็นต์ โดนมองเป็นคนเลวคนชั่วคนหมกมุ่นหื่นกามอะไรทำนองนี้ หรือเป็นคนมักง่าย คิดง่าย ไม่มีอะไรจะทำแล้ว มันเหมือนเป็นประชากรชั้นล่าง ๆ ด้วยซ้ำ การที่คนไทยยังไม่เปลี่ยนทัศนคติว่า sex worker ก็เป็นคนเหมือนกันมันทำให้คนทำงานสายนี้ถูกกดขี่ถูกมองในแง่ลบ”
จากสถิติเมื่อปี 2019 เห็นได้ชัดว่าคนไทยดู Pornhub ติดอันดับโลกทั้งจำนวนผู้เข้าชมและระยะเวลาเฉลี่ยในการชมคลิป แต่ประเทศไทยกลับไม่มีอุตสาหกรรมหนังผู้ใหญ่ของตัวเองแถมผลิตแล้วก็กลายเป็นงานไม่มีลิขสิทธิ์อีก ความอยากรู้เรื่องเซ็กซ์ของคนไทยมีอยู่เสมอตั้งแต่ยุคนิตยสารวาบหวิวมายันยุคปัจจุบัน มันสะท้อนว่าเรื่องเพศมันเป็นสิ่งที่จำเป็นและขาดไม่ได้… แต่เป็นความต้องการที่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ นี่สิ
“คือมันเหมือนกับการกินข้าวอะ มันเป็นเรื่องที่มีอยู่ทุกสมัยไม่ว่าเราจะกดมันขนาดไหนก็ยังมีคนที่อยากได้อยากเข้าถึงอะ เรื่องเซ็กซ์มันเป็นธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตแต่เราไปกดมันไว้แล้วมองว่ามันเป็นเรื่องที่ผิด ผมว่ามันตลกอะที่คนไม่ให้ความสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้
ที่ผมออกมาเรียกร้องนี่ไม่ใช้ว่าต้องการให้คนเข้าถือสื่อลามกกันได้อย่างเสรีนะ ที่ตั้งเป้าไว้จริง ๆ คือการทำให้มันถูกกฏหมายและมีการควบคุมที่ดี มันคือการโซนนิ่ง ซึ่งต่างประเทศเขาก็ทำ คือเปิดกว้างแต่ควบคุมและจำกัดกรอบได้ รวมไปถึงประเภทของสื่อว่าแบบไหนทำได้ แบบไหนห้ามทำ”
*
“ถ้าตอบตรง ๆ ผมว่าศักยภาพหนังโป๊ไทยมันสามารถที่จะขยับขยายไปได้แบบญี่ปุ่นนะ” พี่ชายต๊องจินตนาการถึงอนาคตที่สื่อบันเทิงทางเพศถูกกฏหมายแล้ว
“มันจะพัฒนาไปเรื่อย ๆ คล้ายกับที่ญี่ปุ่นเป็นในปัจจุบัน มันอาจจะเติบโตแบบก้าวกระโดดเพราะว่าคนไทยเก่ง คนไทยมีคนเก่ง ๆ เยอะมากครับแต่แค่ไม่มีโอกาสได้แสดงออกแค่นั้นเอง
ผมมองว่าถ้ามันเปลี่ยนไปแล้วอุตสาหกรรมตรงนี้จะก้าวกระโดด แล้วเม็ดเงินมันจะไหลเข้ามาเยอะมากเพราะจริง ๆ แล้วประเทศไทยก็ดังในเรื่อง sex worker อยู่แล้ว แล้วผมว่าคนจะ treat คนทำงานสายนี้เหมือนยูทูบเบอร์อ่ะ ถ้าใครหน้าตาดีก็จะถูก treat คล้าย ๆ ดารา แต่ถ้าหน้าตารองลงมาแต่คอนเทนต์ดีเขาก็อาจจะ treat เป็นแบบเน็ตไอดอล คือมันจะเป็นไปตามรูปแบบของสังคมเองอะ
ส่วนมุมมองที่มีต่อเรื่องเพศ ผมคิดว่ามันจะเห็นได้ชัดเจนคือในเด็กรุ่นที่กฏหมายถูกบังคับใช้แล้วเพราะหลักสูตรเพศศึกษาจะถูกพัฒนาและบรรจุลงไปในแบบเรียน เรื่องเพศจะเป็นสิ่งที่ปกติมากขึ้นเพราะสามารถพูดคุยกันได้แบบไม่อายไม่เขิน ค่านิยมที่ผิด ๆ ในเรื่องเพศก็จะถูกหักล้างไป”
“ถ้าหนังโป๊ยังไม่ถูกกฏหมายในเร็ววันนี้ พี่จะทำยังไงต่อ?”
“ผมก็ทำต่อไปอะครับ ถึงไม่มีอะไรเปลี่ยนผมก็ยังทำและเรียกร้องต่อไปอยู่ดีเพราะถ้าไม่เปลี่ยนก็เหมือนวนอยู่ในอ่าง วนเป็นลูปอ่ะครับ การที่จะเปลี่ยนอะไรซักอย่างมันต้องช่วยกันอ่ะไม่ใช่เอาแต่บ่นแล้วไม่ทำอะไร
การไม่ทำอะไรเลยผมว่ามันแย่นะ อย่างข่าวเดียร์ลองจะย้ายประเทศเนี่ยผมเห็นคนแชร์เป็นหมื่นแต่คนลงชื่อเพื่อแก้กฏหมายนี่แค่พันนิด ๆ เอง หรือจริง ๆ แล้วเราอาจจะไม่ได้อยากเปลี่ยนอะไรกันขนาดนั้นก็ได้นะ”
“เรื่องแก้กฏหมายนี่ผมก็ไม่อยากที่จะท้อนะ บอกตรง ๆ ว่าพยายามไม่คิดแทนคนอื่น ไม่อยากคาดหวังกับคนอื่นเพราะไม่อยากผิดหวังอ่ะ ผมไม่ได้คาดหวังว่าทุกคนในประเทศจะอยากให้ sex worker ถูกกฏหมาย เพราะถ้าคาดหวังแล้วไม่เป็นไปตามนั้นมันก็แย่นะ
การเปิดใจรับมันก็เรื่องนึง แต่ผมว่าคนขี้เกียจเปลี่ยนด้วยอะ” พี่ชายต๊องพูดส่งท้ายแบบปลง ๆ
สนใจเข้าไปอ่านรายละเอียดและลงชื่อเพื่อแก้ไขมาตรา 287 ได้ที่ https://www.update287.org/